ฉีดฟิลเลอร์สวยธรรมชาติ เคล็ดลับเพิ่มหน้าละมุนก่อนวันรับปริญญา

ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดี? ฉีดฟิลเลอร์หน้าบริเวณไหนถึงจะสวยเป๊ะมากที่สุด? DSC Clinic เชื่อว่าในช่วงใกล้วันรับปริญญาแบบนี้ บัณฑิตใหม่หลาย ๆ คนคงอยากจะจัดเต็มความสวยให้กับตัวเองกันทั้งนั้น และมีความคิดที่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? เพื่อปรับให้ใบหน้าดูมีมิติและอิ่มน้ำมากขึ้นก่อนถึงวันรับปริญญา 

ซึ่งเราต้องขอบอกเลยว่าใครอยากสวยโดดเด้งจนคนทักในช่วงรับปริญญา การฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นหนึ่งในหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ เพราะสามารถปรับรูปหน้า เพิ่มความอิ่มฟูให้กับบริเวณที่ต้องการ หรือแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้อย่างไร้ที่ติ โดยใช้เวลาในการทำไม่นาน เห็นผลลัพธ์ทันที และยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความเป๊ะได้อีกต่างหาก เช่น Botox Hifu หรือ Ulthera เป็นต้น เรียกได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไรได้เยอะเลยทีเดียว 

ที่สำคัญไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็สามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตนเองได้ไม่ยาก สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? หรือจะเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าบริเวณไหนดี? DSC Clinic ขอแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้เพื่อทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์ให้มากยิ่งขึ้น 

มาทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์กันเถอะ 

การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีด Hyaluronic Acid หรือ HA เพื่อเติมเต็มผิวหนังชั้นในให้ฟูขึ้น ซึ่ง สารตัวนี้จะมีคุณสมบัติในการช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นของผิวไว้ ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน แลดูสุขภาพดี ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่มีริ้วรอยร่องลึกในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าได้อย่างดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือใบหน้าจะกลับมาดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น

ในการฉีดฟิลเลอร์จะแบ่งชนิดผิวสัมผัสของฟิลเลอร์จะออกเป็น 3 ชนิด ก็คือฟิลเลอร์เนื้อละเอียด, ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติในการปรับแต่งรูปหน้า รวมถึงบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าที่แตกต่างกันไป 

✔ ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด

จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจล มีความนิ่ม ยืดหยุ่น เนื้อเหลวบางเบาคล้ายน้ำ เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณผิวชั้นตื้นและเหมาะกับการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์เนื้อละเอียดจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งได้เป็นอย่างดี เช่น ริ้วรอยรอบปาก, รอยตีนกา, ใต้ตา (ร่องน้ำตา), เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก, หรือเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ จากหลุมสิว เป็นต้น

✔ ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม

จะมีลักษณะเป็นเนื้อนุ่ม เนื้อไม่เหลว ไม่เป็นน้ำเหมือนฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่ต้องมีการขยับบ่อย ๆ หรือบริเวณที่ต้องการการเติมเต็มที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมักใช้กับบริเวณที่บอบบางและบริเวณที่ผิวมีการขยับเคลื่อนที่ได้ของใบหน้า เช่น บริเวณริมฝีปาก, ใต้ตา (ร่องน้ำตา) หรือเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ เป็นต้น

✔ ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง

จะมีลักษณะเป็นเนื้อที่มีความหนาแน่นมาก มีความคงตัวสูง ปั้นขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดเพื่อปรับโครงสร้างของใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น ฟิลเลอร์เนื้อแข็งมักใช้กับบริเวณโหนกแก้ม, กราม, คาง หรือบริเวณที่ต้องการฉีดยกกระชับ เป็นต้น 

โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์หน้า หรือการฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าอย่างปลอดภัยนั้น จะต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จบเฉพาะทางด้านความงามหรือผิวหนังเท่านั้น ทั้งยังต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมร่วมด้วย และที่สำคัญใครที่ลังเลว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม เราขอบอกเลยว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอนหากเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่มีอย.กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถเติมและปรับแต่งได้เรื่อย ๆ ตามความต้องการ เนื่องจากฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย

เลือกฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดี? แต่ละจุดให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? เลือกฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดี? การเลือกตำแหน่งที่จะฉีดฟิลเลอร์นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน รวมถึงต้องการแก้ปัญหาในจุดไหนบนใบหน้า ซึ่งก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์หน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เราจะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินส่วนที่ต้องการฉีดก่อนว่าควรเติมไปกี่ CC ถึงจะตอบโจทย์กับความเป๊ะปังที่แต่ละท่านต้องการ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์สามารถเลือกฉีดที่บริเวณไหนได้บ้างนั้น? DSC Clinic Dr.Sine ขอพาไปดูพร้อม ๆ กัน

✔ หน้าผาก

เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกหรือรอยย่นบนหน้าผาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากเรียบเนียนขึ้นและช่วยยกคิ้วได้อีกด้วย

✔ ขมับ

เหมาะสำหรับผู้ที่ขมับตอบ ขมับลึก หรือขมับโหล ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะช่วยคืนวอลลุ่มให้กับด้านข้างของหน้าผาก ช่วยให้ขมับดูอิ่มและเต่งตึงขึ้น ทั้งยังช่วยปรับใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น 

✔ ใต้ตา 

เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยคล้ำใต้ตา หรือมีถุงใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานี้จะช่วยให้ดวงตาที่ดูเหนื่อย ๆ กลับมาดูสดใสขึ้น และยังช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาดูตื้นขึ้นและจางลง 

✔ ร่องแก้ม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้มเป็นรอยพับหลังจากยิ้ม ต้องการเพิ่มความคมชัดของโหนกแก้ม หรือต้องการคืนวอลลุ่มให้กับแก้มที่หย่อนคล้อย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถยกกระชับและแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

✔ ปาก

เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึกรอบปาก รอยย่นจากมุมปากลงมา หรือปากขาดความชุ่มชื้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยให้ริ้วรอยเหล่านี้ดูจางลงได้ นอกจากแก้ไขปากขาดความชุ่มชื้นและปากที่เป็นร่องแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อปรับทรงปาก อย่างการฉีดปากให้อวบอิ่มแบบสายฝอ. การฉีดยกมุมปาก หรือการฉีดปากกระจับทรงเกาหลี เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการทรงปากที่เข้ากับตนเองโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม

✔ คาง

เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางไม่สมส่วน คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด หรือผู้อยากมีใบหน้าวีเชฟ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถปรับปรุงความสมดุลของใบหน้าและปรับช่วงคางให้เรียวรับกับใบหน้า

เรียกได้ว่าทั้ง 6 บริเวณที่  DSC คลินิกยกตัวอย่างมานี้ ถือเป็นจุดยอดฮิตในการฉีดฟิลเลอร์เลยก็ว่าได้ ซึ่งใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์หน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณข้างต้นนี้ ทางเราต้องขอบอกก่อนเลยว่าความเหมาะสมของแต่ละบริเวณในการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะใบหน้าและความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ดังนั้นก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์จำเป็นต้องขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อประเมินความต้องการเฉพาะของคุณและแนะนำแนวทางความสวยเป๊ะที่เหมาะสมที่สุด

วางแผนก่อนฉีดฟิลเลอร์ในช่วงรับปริญญาอย่างไรดี ?

สำหรับใครที่อยากเพิ่มความเป๊ะปังให้กับใบหน้าโดยรวมให้ทันก่อนวันรับปริญญา อาจจะต้องวางแผนกันหน่อยว่าจะฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหนดีเพื่อให้ได้ลุคที่สดใสและมั่นใจสำหรับวันพิเศษ ซึ่งขั้นตอนด้านล่างนี้เป็นการเตรียมความพร้อมที่คลินิก DSC ได้นำมาฝากทุก ๆ คน

✔ เลือกคลินิกที่ปลอดภัยและเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง

นัดเวลาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความสวยที่ต้องการ ความกังวลของจุดต่าง ๆ บนใบหน้า และจัดลำดับเวลาในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

✔ เลือกระยะเวลาในการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่กระชั้นชิดเกิน

ควรวางแผนการฉีดฟิลเลอร์หน้าในบริเวณต่าง ๆ ล่วงหน้าก่อนถึงวันรับปริญญา เพราะหลังการฉีดฟิลเลอร์อาจจะมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ ซึ่งหากมีอาการบวมก็จะบวมอยู่ประมาณ 7 – 14 วัน

✔ เลือกบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์

ควรระบุบริเวณที่มีความกังวล หรือบริเวณที่ต้องการเพิ่มความอิ่มฟู เช่น แก้ม ริมฝีปาก ใต้ตา หรือกราม หลังจากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินลักษณะของใบหน้าและแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

✔ ตั้งงบประมาณสำหรับการฉีดฟิลเลอร์

ควรมีการกำหนดงบประมาณสำหรับฉีดฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละชนิด จะมีราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ต้องการฉีด

✔ ปฏิบัติตามแนะนำก่อนการฉีดฟิลเลอร์

ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยนั้น ผู้ที่เข้ารับการทำหัตถการจะต้องปฏิบัติตามแนวทางการรักษาเบื้องต้นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจรวมถึงการหลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมบางชนิดก่อนทำหัตถการ

✔ ปฏิบัติตามแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์

หลังการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวม แดง และมีรอยช้ำเล็กน้อย ดังนั้นจึงควร ปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจรวมถึงการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลีกเลี่ยงการกินปิ้งย่างหน้าเตาร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้ ทั้งนี้ควรมีการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมแดงที่เกิดขึ้น

✔ ดูแลผิวและพักผ่อนให้เพียงพอ

โค้งสุดท้ายก่อนถึงวันรับปริญญาควรมีการดูแลผิวและพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับที่เพียงพอและการดูแลตนเองมีส่วนทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้น 

เป็นอย่างไรกันบ้าง? กับบทความ “ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดีให้เป๊ะก่อนรับปริญญา” ที่ทาง DSC Clinic ได้นำมาฝาก หลาย ๆ คนที่กังวลว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? คงจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าในบริเวณต่าง ๆ นั้น มาพร้อมกับผลลัพธ์ความปังที่อาจคาดไม่ถึง ซึ่งใครที่ต้องการเพิ่มความสวยและเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองแบบไม่ต้องผ่าตัดในวันรับปริญญาที่เป็นโอกาสสุดพิเศษ เราขอบอกเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์คือคำตอบที่ใช่ที่สุด