ทำจมูกธรรมชาติ เสริมจมูกอย่างปลอดภัย ที่ DSC CLINIC
ทำจมูกธรรมชาติ ศัลยกรรมจมูกทรงธรรมชาติ จมูกโหงวเฮ้งดี รับกับใบหน้า ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ DSC CLINIC คลินิกเสริมความงามที่มีบริการมากมาย ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่พร้อมวิเคราะห์รูปหน้าเพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมแบบ Case by case และแนะนำทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติที่รับกับใบหน้าให้กับลูกค้าทุกท่านอย่างจริงใจ
บริการเสริมจมูกจาก DSC CLINIC
“สวยได้อย่างมั่นใจ ด้วยจมูกทรงธรรมชาติ“
ผ่านการดำเนินการด้วยเทคนิคพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง!
‘Sweet Nose’ ทรงจมูก Signature ของ DSC CLINIC
‘Sweet Nose’ เป็น Signature ทรงจมูกมาตรฐานของ DSC CLINIC ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำจมูกธรรมชาติ หรือเสริมจมูกเสริมโหงวเฮ้งเป็นอย่างมาก เนื่องจากลักษณะของจมูกทรง Sweet Nose จะเน้นในเรื่องของความสวยหวานของใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูมีความละมุน อ่อนหวาน และอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
นั่นก็เป็นเพราะ Sweet Nose เป็นทรงของจมูกที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ถูกดีไซน์ให้สันจมูกจะมีความสโลปเข้ากันกับบริเวณหน้าผากของคนไข้ได้เป็นอย่างดี บวกกับปลายจมูกที่จะมีความเชิดและมีหยดน้ำเล็กน้อย ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการทำจมูกทรงธรรมชาติเพราะสโลปที่ไล่ระดับจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่โป๊ะ บวกกับความเชิด และหยดน้ำของปลายจมูกทรงนี้ที่จะช่วยเพิ่มความสวยละมุน และเติมเต็มความหวานให้กับใบหน้าของทุกคนได้อย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง
รวมทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติจาก DSC CLINIC
นอกจากทรงจมูก Signature ของ DSC CLINIC อย่าง Sweet Nose แล้ว ทุกท่านยังสามารถเลือกจมูกทรงธรรมชาติที่รับกับใบหน้าของตัวเองได้ ซึ่งตัวอย่างของทรงจมูกสวยยอดฮิต ที่ดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่
- จมูกทรงหยดน้ำ
- จมูกทรงบาร์บี้ไลน์
- จมูกทรงสโลป ปลายพุ่ง
- จมูกทรงสโลป ปลายหยดน้ำ
- จมูกทรงสโลป ปลายพุ่ง มีหยดน้ำ
- จมูกทรงแมนทิสแบบธรรมชาติ
- จมูกสันสูง ปลายเชิด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของทรงจมูกเพียงเท่านั้น หากใครยังไม่มั่นใจว่าทรงจะจมูกแบบไหนคือทรงจมูกที่เหมาะสมและรับกับใบหน้าของคุณมากที่สุด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทาง DSC CLINIC ก็พร้อมวิเคราะห์ใบหน้าและแนะนำทรงจมูกที่เหมาะสม เพื่อการทำจมูกธรรมชาติที่สวยงาม และเข้ากับใบหน้าของคุณ พร้อมดูแลติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกท่าน
“ใส่ใจ ปลอดภัย ให้ความสำคัญกับทุกเคส
ที่ DSC CLINIC”
DSC CLINIC ที่หนึ่งในเรื่องของการทำจมูกธรรมชาติ
จมูกสวย ตรงใจ รับกับใบหน้าอย่างแท้จริง
วิเคราะห์รูปหน้า ไม่ฝืนเนื้อจมูก เพื่อจมูกทรงสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
เชี่ยวชาญทุกเทคนิค ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
พร้อมแนะนำเทคนิคและทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับคุณ
เสริมจมูกปลอดภัย ใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอน
ดูแลอย่างครอบคลุม ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบ Case by case
การทำจมูกทรงธรรมชาติตอบโจทย์ใครบ้าง ?
✔ ผู้ที่ไม่พึงพอใจและไม่มั่นใจในทรงจมูกของตัวเอง
✔ ผู้ที่ต้องการปรับทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า
✔ ผู้ที่มีปัญหาจมูกแบน จมูกบาน หรือจมูกมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
✔ ผู้ที่มีปัญหาจมูกฮัมพ์ หรือสันจมูกไม่เรียบ มีลักษณะเป็นคลื่น
✔ ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อทรงของจมูก
✔ ผู้ที่มีปัญหาจมูกเบี้ยว หรือโคนจมูกเอียง
หากคุณคือผู้ที่กำลังมีปัญหาด้านทรงจมูก หรือกำลังต้องการเสริมจมูก รวมถึงปรับทรงของจมูกและตัดปีกจมูกเพื่อเสริมความมั่นใจ ให้จมูกดูสวยงามรับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการทำจมูกธรรมชาติหรือบริการศัลยกรรมจมูกของ DSC CLINIC เพื่อรับคำแนะนำและออกแบบทรงจมูกที่เหมาะสม พร้อมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรงจมูกด้วยเทคนิคเฉพาะกันอย่างตรงจุดกันได้เลย!
ทำจมูกทรงธรรมชาติ ปลอดภัยทุกขั้นตอน ที่ DSC CLINIC
ด้วยขั้นตอนการเสริมจมูกของทาง DSC CLINIC ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทำให้ทุกท่านที่เข้ามารับบริการศัลยกรรมเพื่อเสริมจมูกโหงวเฮ้งดี หรือเสริมจมูกทรงธรรมชาติกับทางเราจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษา แนะนำทรงจมูก และเทคนิคที่เหมาะสม ไปจนถึงขั้นตอนการทำจมูกต่าง ๆ เหล่านี้
Step 1 : ให้ยาชาหรือยานอนหลับ
เป็นขั้นตอนการให้ยาชาหรือยานอนหลับกับผู้เสริมจมูกอย่างเหมาะสม ซึ่งในขั้นตอนนี้จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัดทำจมูกธรรมชาติ โดยแพทย์เจ้าของ Case จะเป็นผู้ประเมินว่าจะใช้เพียงยาชาหรือใช้ยาชาร่วมกับยากล่อมประสาท เช่น หากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดจะต้องใช้การวางยานอนหลับโดนวิสัญญีแพทย์ ส่วนการผ่าตัดแบบปิดจะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด
Step 2 : เข้าสู่กระบวนการผ่าตัดเสริมจมูก
หลังจากให้ยาชาหรือยานอนหลับตามการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนของการผ่าตัดเสริมจมูกทรงธรรมชาติทรงต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปแบบ Case by case ตั้งแต่การเหลาซิลิโคน การเปิดแผล การปรับโครงสร้าง และการตกแต่งทรงจมูกให้สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ นั่นก็เพื่อแก้ไขปัญหาของแต่ละเคสให้ตรงจุด และเพื่อให้การเสริมจมูกเหมาะสมกับทรงจมูกเดิมและปลอดภัยต่อผู้ที่เข้ามาทำศัลยกรรมจมูกมากที่สุด ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพียงเท่านั้น
Step 3 : เย็บปิดแผลผ่าตัด
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายในการทำศัลยกรรมจมูกคือการเย็บแผลหรือการเย็บปิดแผลผ่าตัด ซึ่งในบางกรณีแพทย์อาจให้เข้าเฝือกที่จมูกร่วมด้วย โดยแพทย์ของเราจะดำเนินการเย็บปิดแผลอย่างละเอียด เพื่อซ่อนรอยแผลจากการทำจมูก ให้ทุกท่านได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติและไม่มีรอยแผลที่มากวนใจ ซึ่งหลังจากที่เย็บแผลเรียบร้อยแล้วผู้ที่ทำศัลยกรรมจมูกจะต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน และในระหว่างนี้ทุกคนจะสามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่แพทย์จะนัดมาเพื่อติดตามผลและทำการตัดไหมในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ทาง DSC CLINIC ยังมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้คำแนะนำในเรื่องของการดูแลตัวเองหลังการทำจมูก เพื่อให้ทุกท่านสามารถดูแลตัวเองหลังจากการเสริมจมูกได้อย่างเหมาะสม และได้รับความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย
รอบรู้เรื่องการทำจมูกไปกับ DSC CLINIC
แน่นอนว่าการตัดสินใจทำจมูก เป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับใบหน้า และความสวย ความงาม ช่วงของการตัดสินใจก่อนทำการเสริมจมูกจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ทุกท่านควรศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นทรงจมูกที่ชื่นชอบ การเตรียมตัวก่อนและหลังเสริมจมูก ควรเลือกทำจมูกธรรมชาติกับแพทย์ท่านใด และเลือกทำที่คลินิกไหนถึงจะปลอดภัยและมีมาตรฐาน ในส่วนนี้เราจึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับการทำศัลยกรรมจมูกให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเทคนิคการเสริมจมูกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปดูกันเลย!
เทคนิคการทำจมูก แบบไหนที่ใช่ เหมาะกับตัวคุณ!?
สิ่งหนึ่งที่สำคัญก่อนตัดสินใจทำจมูกทรงธรรมชาติ คือ จะเลือกวิธีการเสริมจมูกแบบเปิดหรือแบบปิดดีให้ปลอดภัยและเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบเกี่ยวกับความแตกต่างของการผ่าตัดเสริมจมูกทั้งแบบเปิดและแบบปิด พร้อมข้อดีของการผ่าตัดทำศัลยกรรมเสริมจมูกทั้ง 2 รูปแบบให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อม ๆ กัน
1. เทคนิคการผ่าตัดแบบปิด Endonasal Rhinoplasty
เทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Endonasal Rhinoplasty เป็นการเสริมจมูกทรงธรรมชาติที่มีการผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็ก 1-2 ข้างภายในรูจมูก โดยแพทย์สามารถจัดการกับกระดูกอ่อนได้ระดับหนึ่งในเคสเสริมใหม่ที่ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูกมากนัก
- Closed Rhinoplasty
เป็นการเสริมจมูกแบบปิด Endonasal Rhinoplasty รูปแบบหนึ่งที่ผู้ทำศัลยกรรมจะได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติและมองไม่เห็นรอยแผล ซึ่งถือเป็นเทคนิคการเปิดแผลที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากจะมีการผ่าตัดเปิดแผลด้านในรูจมูก 1 ข้าง แต่จะเป็นข้างขวาหรือข้างซ้ายนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์เจ้าของเคส ซึ่งข้อดีของการเสริมจมูกแบบ Closed Rhinoplasty นี้ก็คือแพทย์จะไม่ต้องทำการเปิดแผลสองข้าง แต่ก็อาจทำให้แพทย์สามารถปรับโครงสร้างของจมูกไม่ได้ทั้งหมด
- Semi – Open
เป็นหนึ่งในเทคนิคการเปิดแผลแบบปิด Endonasal Rhinoplasty เช่นเดียวกัน เพียงแต่การทำจมูกธรรมชาติด้วยเทคนิค Semi – Open นี้จะได้รับผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการเสริมจมูกด้วยเทคนิค Open Rhinoplasty หรือการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เนื่องจากเทคนิค Semi – Open จะเป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในรูจมูกทั้ง 2 ข้างเพื่อทำการตกแต่งกระดูกอ่อน เย็บอินเตอร์โดม และมีการตะไบฮัมพ์ให้เรียบเนียน ซึ่งมีข้อดีคือจะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับเทคนิค Open แต่แผลจะอยู่ด้านใน ทำให้มองไม่เห็นรอยแผล ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องขอแนะนำทุกท่านว่าการเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์เจ้าของเคส ว่าจะสามารถทำศัลยกรรมจมูกให้ได้รับผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับเทคนิค Open มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
การทำจมูกธรรมชาติด้วยเทคนิคการผ่าตัดแบบปิดมีข้อดีมากมาย ดังนี้
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
- ไม่ต้องวางยาสลบในการผ่าตัด
- ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย
- ดูแลรักษาแผลไม่ยาก
- หลังทำสามารถตรวจเช็กทรงจมูกได้ทันที
- มองไม่เห็นแผลจากภายนอก เพราะแผลจะซ่อนอยู่ภายในรูจมูก
- ราคาถูกกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด
2. เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด Open Rhinoplasty
เทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty เป็นการผ่าตัดแบบเปิด หรือที่นิยมเรียกว่าการผ่าแบบโอเพ่น ซึ่งเป็นการทำจมูกทรงธรรมชาติที่แพทย์จะสามารถปรับแต่งและปรับโครงสร้างของจมูกที่มีความซับซ้อนได้อย่างตรงตรงจุด แต่จะมีแผลผ่าตัดอยู่ตรงบริเวณขาจมูก เนื่องจากในการผ่าตัดจะเป็นการผ่าเปิดแผลโดยที่เชื่อมไปยังด้านในรูจมูก เพื่อเปิดผิวหนังของจมูกขึ้นให้เห็นโครงสร้างของจมูกทั้งหมด ซึ่งการผ่าตัดแบบนี้แพทย์จะทำการปรับแต่งโครงสร้างกระดูกอ่อนหรือกระดูกด้านในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทรงจมูกมีความสวยงามได้มากยิ่งขึ้น
- Advance Open Rhinoplasty
เป็นหนึ่งในการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด หรือ Open Reconstruction รูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นเทคนิคการ ‘ยืดแกนกลางจมูก’ (Septum) จากที่เตี้ยให้สูงขึ้น โดยการใช้กราฟต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแกนกลางจมูกของคนไข้เอง หรือในบางเคสอาจจะต้องใช้เป็นแกนกลางจมูกเทียม ซึ่งเทคนิคนี้ถือเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างทำได้ยาก แต่มีข้อดีคือผู้เสริมจมูกจะได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติ เนื่องจากจมูกจะถูกยืดให้มีความสูงมากขึ้น ทำให้ทรงจมูกมีความสวยงามรับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้นนั่นเอง
- Rib CartilageRhinoplasty
เป็นการเสริมจมูกหรือการทำจมูกธรรมชาติแบบเปิด โดยการใช้กระดูกซี่โครงของตัวคนไข้เองในการเสริมจมูก หรือที่มักถูกเรียกว่า การเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง ปลายไร้ซิลิโคน โดยเทคนิคนี้เป็นเทคนิคขั้นสูงที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการนำซี่โครงของคนไข้มาใช้ในการเสริมจมูก โดยเฉพาะในส่วนของปลายจมูก เพื่อทำให้ปลายจมูกไร้ซิลิโคนแบบ 100% รับประกันว่าจะไม่มีการทะลุ และที่สำคัญคือผู้เสริมจมูกจะได้รับทรงจมูกที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเทคนิคนี้ถือเป็นเทคนิคขั้นสูงสุดในปัจจุบัน
การทำจมูกทรงธรรมชาติด้วยเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดมีข้อดีมากมาย ดังนี้
- แพทย์สามารถปรับโครงสร้างของจมูกที่มีความซับซ้อนได้อย่างตรงตรงจุด
- แพทย์สามารถแก้ไขจมูกให้ได้องศา
- แพทย์จะสามารถตกแต่งปลายจมูกเพื่อลดโอกาสซิลิโคนทะลุหรือจมูกเบี้ยวในอนาคต
- ผู้ที่มีปลายจมูกสั้นกลม ปลายจมูกเชิด จมูกทรงชมพู่ สามารถแก้ไขทรงของกระดูกอ่อนปลายจมูก ไม่ว่าจะตัดเย็บให้ปลายจมูกที่กลมมนดูเรียวขึ้น ยาวขึ้น หรือผ่าตัดเอาเนื้อส่วนเกินจากจมูกชมพู่ออกแล้วเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้นก็ได้
- ผู้ที่มีแกนจมูกสูง หรือเบี้ยวผิดรูป สามารถตอกฐานจมูกปรับทรงให้ตรงเข้าที่เพื่อให้จมูกดูสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นได้
- ผู้ที่ผ่านการแก้จมูกมานับครั้งไม่ถ้วนจนเกิดพังผืดสะสม ก็สามารถผ่าตัดขูดพังผืดทั้งหมดออกแล้วค่อยผ่าตัดแก้ทรงจมูกที่ผิดพลาดอันเก่าให้เป๊ะใหม่ก็ได้เช่นกัน
- ผู้ที่ผ่านการทำจมูกแบบปิดแล้วรู้สึกว่าซิลิโคนกำลังจะทะลุ ในกรณีนี้ถ้าซิลิโคนดันจนเนื้อปลายจมูกบางระยะสุดท้าย การผ่าตัดเปิดจมูก คือทางเลือกดี ๆ ที่จะรักษาเยื่อปลายจมูกของคุณไว้ได้ด้วยการเสริม กระดูกอ่อนและไขมันจากหลังหู กั้นตรงปลายจมูกเอาไว้ไม่ให้ซิลิโคนทะลุออกมา
เสริมจมูกแบบปิด VS แบบเปิด
เสริมจมูกแบบปิด | เสริมจมูกแบบเปิด |
ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาทางด้านจมูกน้อย ต้องการทำจมูกธรรมชาติเพียงเล็กน้อย | ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาทางด้านจมูกเยอะ ปรับโครงสร้างจมูกได้หลากหลาย แก้ไขได้ตรงจุด |
ใช้เวลาผ่าตัดน้อย | ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า |
ใช้เวลาพักฟื้นน้อย หายไว | ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า |
มองไม่เห็นแผล รอยแผลจะซ่อนอยู่ภายในจมูก | อาจจะมีรอยแผลใต้ฐานจมูก |
รวม 4 เทคนิคการ ‘รองปลายจมูก’ เพื่อจมูกทรงสวย
เมื่อรู้ถึงเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกทั้ง 2 รูปแบบอย่างการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดและการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดกันเรียบร้อยแล้ว เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับเทคนิคการ ‘รองปลายจมูก’ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจในรูปแบบของการทำจมูกทรงธรรมชาติกันมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเทคนิคการ ‘รองปลายจมูก’ เพื่อทรงจมูกที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติมีอยู่ด้วยกัน 4 เทคนิค ได้แก่
1. Tip Graft
คือการนำเนื้อเยื่อต่าง ๆ มาเรียงต่อกันที่ปลายจมูก ซึ่งเป็นเทคนิคการรองปลายจมูกเทคนิคใหม่ที่นิยมใช้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเทคนิคนี้จะเปลี่ยนจากเดิมที่มีการรองปลายด้วยซิลิโคนโดยที่ไม่มีเนื้อเยื่อเสริมที่ปลายจมูก มาเป็นการนำเนื้อเยื่อมาเสริมเพื่อเพิ่มความสูงให้ปลายจมูก เพื่อให้จมูกมีความสวยงาม ให้ทุกท่านได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
2. Fascia Graft (เนื้อเยื่อหลังหู)
เป็นเทคนิคการรองปลายจมูกที่แพทย์จะใช้เนื้อเยื่อหลังหูของตัวคนไข้เองเพื่อนำมาเสริมที่ปลายจมูก ซึ่งเทคนิคการทำจมูกธรรมชาติเทคนิคนี้นั้นมีข้อดีคือแพทย์จะสามารถนำเนื้อเยื่อหลังหูของคนไข้มาคลุมที่หัวซิลิโคน ทำให้จมูกจะมีความเนียน ปลายจมูกดูละมุน และมีความปลอดภัยไม่แพ้การรองปลายจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ
3. Fascia Cartilage Graft (กระดูกอ่อนหลังหู)
เป็นการรองปลายจมูกโดยแพทย์จะใช้กระดูกอ่อนหลังหูของคนไข้มาต่อที่บริเวณปลายจมูก ซึ่งอาจจะนำมาต่อกับซิลิโคนเพื่อที่จะเพิ่มความสูงให้จมูกมีความสวยงามและปลอดภัย โดยข้อดีของการรองปลายด้วยเทคนิคนี้คือเป็นการทำจมูกทรงธรรมชาติที่จมูกจะมีความแข็งแรงและมีสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ปลายจมูกของคนไข้มีความสูงและสวยงามมากขึ้นเช่นเดียวกัน
4. ADM TIP (เนื้อเยื่อเทียม)
เป็นการเติมเนื้อเยื่อเทียมที่ปลายจมูกด้วยการใช้นวัตกรรมเนื้อเยื่อเทียม ที่สามารถทดแทนการใช้กระดูกอ่อนหลังหูคนไข้เพื่อเติมปลายจมูกของคนไข้ได้โดยที่คนไข้ไม่ต้องใช้เนื้อเยื่อหลังหูหรือกระดูกหลังหูของตัวเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับคนไข้ที่อยากทำจมูกทรงธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสูงที่ปลายจมูกอย่างปลอดภัย โดยที่จะไม่ต้องใช้เนื้อเยื่อหลังหูหรือกระดูกหลังหูของตัวเอง
บอกลาปัญหา ‘จมูกฮัมพ์’ ด้วยการ ‘ตอกฐานจมูก’
ผู้ที่กำลังประสบปัญหาจมูกฮัมพ์ฟังทางนี้ เรามีเทคนิคการทำศัลยกรรมจมูกดี ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาจมูกฮัพพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำ!
ก่อนอื่นเราต้องขออธิบายก่อนว่า จมูกฮัมพ์ หรือ Hump Nose คือ ลักษณะสันจมูกที่ไม่เรียบ เป็นคลื่น นูนเป็นหลังเต่าขึ้นมา ซึ่งคนที่มีลักษณะจมูกแบบนี้มักมีปลายจมูกงุ้ม และในบางเคสที่มีฮัมพ์สูงมาก ๆ อาจทำให้จมูกดูคด เอียง ทำให้หน้าดูดุ และไม่น่าเข้าหา
ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขด้วยการตะไบฮัมพ์ให้เรียบขึ้น โดยการตะไบฮัมพ์คือ เทคนิคที่ทำให้จมูกมีความธรรมชาติมากขึ้น หรือในเคสที่ฐานจมูกใหญ่ กว้าง ก็สามารถใช้เทคนิคทำจมูกธรรมชาติอย่างการ ‘ตอกฐานจมูก’ (Humpectomy) เพื่อตัดแต่งกระดูกในส่วนที่นูนขั้นมาให้เรียบขึ้น ร่วมกับการเสริมด้วยซิลิโคนเพื่อปิดความไม่เรียบของกระดูก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้สันจมูกดูเรียบขึ้น ไม่โก่งนูน และช่วยให้ใบหน้าดูหวาน ละมุนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
รู้จักกับการ ‘ตอกฐานจมูก (Osteotomy)’
การตอกฐานจมูก เป็นเทคนิคที่ใช้ในกรณีที่จมูกของคนไข้มีลักษณะฐานจมูกบริเวณด้านข้างที่ค่อนข้างจะกว้างกว่าจมูกของคนปกติ ทำให้เวลามองใบหน้าตรง ๆ ทรงของจมูกจะค่อนข้างใหญ่ ส่งผลให้จมูกจะดูแบน และสันจมูกไม่ชัด ซึ่งการตอกฐานจมูกจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
โดยการตอกฐานจมูกมีการเปิดแผลบริเวณด้านข้างเล็กน้อย จากนั้นแพทย์จะทำการตอกฐานจมูกเข้าไปเพื่อที่จะทำให้ฐานจมูกมีความแคบลง และเมื่อมองหน้าตรงแล้วทรงจมูกก็จะมีความแคบและเรียวขึ้น และดูสวยงามมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
จมูกพุ่ง ลดการทะลุของซิลิโคนด้วยการ ‘เย็บอินเตอร์โดม’
นอกจากเทคนิคการตอกฐานจมูกที่มีความน่าสนใจ และทำให้ทุกท่านได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติเข้ากับใบหน้าแล้ว การเย็บอินเตอร์โดมก็เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน โดยเทคนิคการเย็บอินเตอร์โดมเป็นเทคนิคที่นอกจากจะช่วยให้จมูกดูพุ่งแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการทะลุของซิลิโคนในอนาคตได้อีกด้วย
ปรับทรงสวย ให้จมูกรับกับใบหน้าด้วยการ ‘ตัดปีกจมูก’
การตัดปีกจมูกถือเป็นเทคนิคการทำจมูกทรงธรรมชาติที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทรงจมูกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเทคนิคนี้เป็นการทำศัลยกรรมจมูกที่จะช่วยให้รูจมูกดูเล็กลง อีกทั้งยังทำให้ทรงจมูกเข้ากับใบหน้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการตัดปีกจมูกด้านในออก แล้วทำการเย็บเพื่อให้จมูกดูแคบลงนั่นเอง
ปลอดภัยไปกับ “คำแนะนำการดูแลตัวเองก่อนและหลังทำจมูกจาก DSC CLINIC”
เพื่อให้การทำศัลยกรรมจมูก การเสริมจมูก หรือการทำจมูกธรรมชาติปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากที่สุด ทุกคนควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่มีมาตรฐาน มีรีวิวที่ดี และที่สำคัญคือต้องมีการดำเนินการโดยแพทย์ผู้ที่เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองและมีการจดทะเบียนแพทย์อย่างถูกกฎหมาย
ซึ่งแน่นอนว่าที่ DSC CLINIC ของเราเป็นคลินิกเสริมความงามที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องของความปลอดภัยในการทำศัลยกรรมและการเสริมจมูก ก่อนที่ทุกท่านจะเลือกรับบริการของเรา เราจึงขอแนะนำการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำจมูกให้ทุกคนได้รู้ ซึ่งมีดังนี้
ก่อนทำศัลยกรรมจมูกทรงธรรมชาติเราขอแนะนำให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้
- ปรึกษาแพทย์ รับคำแนะนำเกี่ยวกับทรงจมูกที่เหมาะสม และเทคนิคที่มีความปลอดภัย
- แจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียดกับแพทย์เจ้าของเคส เช่น โรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ การแพ้ยา แพ้อาหาร
- งดการใช้ยาต่าง ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนการผ่าตัด อย่างน้อย 7-14 วัน เช่น สมุนไพร ยาบำรุง วิตามิน ยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินซี โดยเฉพาะยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนการทำจมูก เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือด
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดทำจมูก
- งดรับประทานทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เนื่องจากอาจส่งผลต่อการอักเสบของแผลได้
- งดแต่งหน้าก่อนการผ่าตัดทำจมูก
- งดกิจกรรมหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิวต่าง ๆ ก่อนการผ่าตัดทำจมูก
- ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัดทำจมูก
- งดการทาเล็บมือ เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
- งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง (ไม่ต้องงดในกรณีผ่าตัดโดยการฉีดยาชาเฉพาะจุด)
เนื่องจากหลังจากการทำจมูกธรรมชาติอาจมีอาการข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา อาทิ
- ใต้ตาบวม
- ใต้ตาเขียวช้ำ
- ใต้ตามีเลือดออก
- บ้วนปากแล้วมีเลือดลงคอ
- อึดอัดจมูก
- ตึงบริเวณแผลผ่าตัด
ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดทำศัลยกรรมจมูกจึงควรดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอาการข้างเคียง ป้องกันอาการแทรกซ้อน และเพื่อให้ผลลัพธ์การทำศัลยกรรมจมูกออกมาได้อย่างตอบโจทย์ ตรงใจ และปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งหลังการทำจมูกทุกท่านควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- ควรประคบเย็นด้วย Cool pack บริเวณหน้าในช่วง 72 ชั่วโมงหลังผ่าตัดทำจมูกทรงธรรมชาติ โดยจะต้องเว้นตรงแผลเอาไว้ (สันจมูกด้านซ้ายและขวา สันจมูกตรงกลางด้านบน ระหว่างคิ้ว) เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล และเพื่อลดอาการบวมของแผล
- ประคบอุ่นหลังจากผ่านการผ่าตัดทำจมูกไปแล้ว 72 ชั่วโมง เพื่อลดรอยเขียว ช้ำ ม่วง
- ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก หากรู้สึกคันให้ใช้คอตตอนบัดหรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบา ๆ
- หลังทำจมูกธรรมชาติควรนอนโดยให้ศีรษะสูง อาจใช้หมอนรองที่คอเพื่อให้เลือดไม่คั่งอยู่ในโพรงจมูกและบริเวณแผล
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพราะอาจไปกดทับบริเวณแผล และทำให้แผลอักเสบ
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ส่งผลให้ไอหรือจามประมาณ 1 สัปดาห์ เช่น สถานที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ร้านอาหารฉุน ๆ เป็นต้น
- งดอาหารที่แข็งและเหนียว ให้เลือกรับประทานอาหารอ่อน ๆ แทน
- งดรับประทานอาหารหมักดองหรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด
- ห้ามไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน งดการล้างบริเวณใบหน้า
- งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และหยุดการสูบบุหรี่หลังทำจมูกเป็นระยะเวลา 30 วันหรือ 1 เดือน
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ และการเล่นกีฬาหนัก ๆ เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก การขยี้จมูก เพราะจะทำให้แผลอักเสบและหายช้า
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักและการก้มหน้านาน ๆ
นอกจากนี้เมื่อทำศัลยกรรมจมูกหรือทำจมูกทรงธรรมชาติแล้ว หากท่านใดพบกับอาการที่ผิดปกติ ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยอาการ และวางแผนการดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที
ถึงแม้การทำจมูกจะมีความปลอดภัย และมีเทคนิคมากมายที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของการทำจมูกนั้นสวยงาม ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ และมีผลข้างเคียงที่น้อย แต่เราต้องขอแนะนำทุกท่านอย่างจริงใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้ารับการทำศัลยกรรมจมูกได้ เพราะในบางรายอาจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกได้ ซึ่งผู้ที่ไม่ควรทำการศัลยกรรมจมูกนั้น ได้แก่
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงของการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือแพทย์ลงความเห็นว่าใบหน้ายังมีการเจริญเติบโตไม่เต็มที่
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และเป็นโรคหลอดเลือดผิดปกติ เช่น เส้นเลือดตีบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวซึ่งอาจส่งผลต่อการผ่าตัดได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
- ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- ผู้ที่มีแผลติดเชื้อ หรือกำลังเป็นไข้หวัด
- ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงของการจัดฟัน
อย่างไรก็ตามหากคุณอยู่ในเกณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ต้องการที่จะทำศัลยกรรมจมูกเพื่อให้ได้รับทรงจมูกสวย ๆ ธรรมชาติจริง ๆ เราขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทาง DSC CLINIC เสียก่อน เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของทางเราจะช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำถึงการทำศัลยกรรมที่เหมาะสม และวินิจฉัยว่าคุณสามารถทำศัลยกรรมได้หรือไม่อย่างจริงใจ เพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ คนนั่นเอง
ทำจมูกธรรมชาติและศัลยกรรมอย่างปลอดภัย ต้องที่ DSC CLINIC
✔ ดีไซน์จมูกทรง Sweet Nose’ เพิ่มความสวย หวาน ให้กับใบหน้า
✔ วิเคราะห์รูปหน้า เพื่อดีไซน์ทรงจมูกให้รับกับใบหน้าของทุกท่านมากที่สุด
✔ พิจารณาแบบ Case by case เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ต้องการเสริมจมูก
✔ ดูแลโดยแพทย์ตลอดกระบวนการ พร้อมติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
สำหรับราคาเริ่มต้นของการทำจมูกธรรมชาติที่ DSC CLINIC
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15,999.-
ซึ่งการทำจมูกธรรมชาติก็จะมีหลากหลายราคาและหลากหลายเทคนิค เนื่องจากราคาจะมีความ
แตกต่างกันออกไปตามทรงจมูกที่อยากได้และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากที่
DSC CLINIC จะโดดเด่ดเรื่องของการทำจมูกธรรมชาติแล้ว การศัลยกรรมส่วนอื่น ๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
จมูกทรงสวย รับกับใบหน้า อย่างเป็นธรรมชาติ
ต้องที่ DSC CLINIC
ที่หนึ่งด้านการทำศัลยกรรมจมูก
มองหาบริการทำจมูกธรรมชาติที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ พร้อมวิเคราะห์รูปหน้าและเลือกใช้
เทคนิคที่เหมาะสมที่สุดกับทุกท่านแบบ Case by case เพื่อการทำจมูกทรงธรรมชาติ รับกับใบหน้า
อย่างปลอดภัย ต้องบริการทำจมูกทรงธรรมชาติ จาก DSC CLINIC เท่านั้น!